...
...
เด็กๆ นอนแต่บ้านตัวเอง โตขึ้นมา ทำงานลงพื้นที่ นอนบ้านชาวบ้าน ไปเที่ยวนอนในเต้นท์ตามป่าตามเขาบ้าง... แต่ไม่เคยคิดว่า ครั้งหนึ่ง เราจะมีโอกาสได้นอนในอควาเรียม ^^
เหตุเกิดจากการวางแผนทริปไปวิ่งที่เกาสง แล้วก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับที่เที่ยวที่น่าสนใจ แล้วเราก็ไปเจอข้อมูลจากเพจที่คนท่องเที่ยวไต้หวันหลายๆ คนคงจะติดตามอยู่ คือ http://www.flymetotaiwan.com/ และก็มีเนื้อหาในส่วนของการไปนอนในอควาเรียมพร้อมกิจกรรมต่างๆ อยู่ด้วย ไม่ต้องตัดสินใจอะไรให้มากมาย เราก็บรรจุโปรแกรมนี้ไว้ในแผนการท่องเที่ยวของเราเรียบร้อย เย้ๆๆๆๆ
อควาเรียมที่มีโปรแกรมพิเศษนี้คือ National Museum of Marine Biology & Aquarium หรือ NMMBA ซึ่งการที่จะไปนอนได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ หอบผ้าหอบผ่อนไปขอเค้านอนนะเออ ต้องมีการจองเรื่องที่พัก จ่ายเงินให้เรียบร้อยกันก่อน โดยเราจะเข้าไปจองในเวปที่ใช้ชื่อว่า Sleepover ตามลิงค์นี้เลยค่ะ
ซึ่งเค้าก็จะให้เราเลือกโซนที่จะนอน ที่เอมเลือกไปจะเป็นโซนอุโมงค์ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อย คนละ 2380 NT ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้จะรวมโปรแกรมเริ่มตั้งแต่ 16.00 น.ของวันที่ 1 ไปสิ้นสุดประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 2 มีโปรแกรมการเรียนรู้เรื่องสัตว์น้ำ อาหารเย็น อาหารเช้า และการปั้นดินเป็นของที่ระลึก จองเสร็จจ่ายตังค์เรียบร้อยเราก็นั่งนับวันรอที่จะไป
เอมวางโปรแกรมว่าลงเครื่องที่เกาสงปุ๊บ ก็ต่อรถไปที่อควาเรียมเลย ซึ่งเราสามารถที่จะติดต่อจองรถ shuttle bus ของอควาเรียมที่วิ่งระหว่างสนามบินกับอควาเรียมได้ โดยต้องจองล่วงหน้า 2 วัน ผ่านทางอีเมล์ sea4545@kentington.com.tw ค่าใช้จ่าย 400 NT/trip/person แต่เอมไม่ได้ใช้บริการของอันนี้เนื่องจากวันที่ไปตรงกับพายุเข้าฮ่องกง (แวะต่อเครื่องฮ่องกง) เลยกลัวว่าไฟลท์จะโดนแคนเซิล เลยตัดสินใจว่าไปหาการเดินทางเอาเองที่สนามบินดีกว่า ซึ่งถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่าอควาเรียมอยู่ห่างจากเมืองเกาสงพอสมควรเลย
ลงเครื่องปุ๊บ ก็หาว่าเราจะเดินทางไปอย่างไร ปรากฏว่ามีรถบัสจากสนามบิน ไปที่ป้ายรถเมล์หน้าทางเข้าอควาเรียม แต่ต้องต่อรถ shuttle bus เข้าไปอีก เราสามารถติดต่อรถบัสได้จากเคาท์เตอร์ใกล้ประตูทางออก 5 (ที่เอมปักลูกศรสีแดงไว้) ตั๋วไปกลับ 600 NT (แต่ขากลับบอกเค้าว่าเราไปลงที่สถานีรถไฟเกาสง) รถบัสสายที่เรานั่งไปคือ 918
นั่งรถชมวิวเพลินๆ สัก 2 ชั่วโมง มี wifi ให้เล่นบนรถบัสด้วย เราก็ถึงป้ายรถเมล์ด้านหน้าอควาเรียม ลงรถแล้วให้เดินย้อนกลับมาถึงแยกไฟแดงที่มีประภาคารแล้วเดินเลี้ยวซ้ายไป จะเห็นป้ายรถเมล์เป็นศาลาเล็กๆ ด้านขวา ยืนรอตรงนั้น สักพักกกกก ก็จะมีรถ shuttle bus มา... ระหว่างที่รอ shuttle bus ก็จะมีพี่แท็กซี่แวะเวียนกันมาเป็นระยะ พร้อมกับพยายามบอกเราว่า ไม่มีรถบัสๆ แต่เราก็ใจแข็ง 55555 แท็กซี่พี่เค้าเรียกเที่ยวละ 150 NT ต่อรองราคาไม่ยอมลด แต่ถ้ารอรถบัส คนละ 23 NT นะคะ
ป้ายนี้แหละ ที่พี่แท็กพยายามมาเชิญชวนเรา |
shuttle bus ที่เข้าไปที่อควาเรียม เหมือนจะมีห่างกันประมาณ ครึ่ง - 1 ชั่วโมงค่ะ ลงรถปุ๊บ เราก็เข้าไปติดต่อที่ information ได้ป้ายคล้องคอน่ารักๆ มาคนละอัน
เรามาถึงก่อนเวลา เลยถือโอกาสเดินเล่นชมอควาเรียมกันไปพลางๆ เค้าจะนัดเจอกันตรง lobby ตอน 16.00 น. ตอนที่ไป มีจุดที่กำลังซ่อมแซมปรับปรุงหลายส่วนอยู่เหมือนกันค่ะ อควาเรียมที่นี่ใหญ่ใช้ได้เลย โดยเฉพาะอุโมงค์ มี 3 ช่วงลึกลงไปเรื่อยๆ มีแยกโซนสัตว์แต่ละประเภท
ส่วนของ lobby ที่เป็นจุดนัดเจอกัน (ภาพนี้ถ่ายตอนเช้าอีกวัน เลยไม่มีคนค่ะ ^^) |
เดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆ ก็ถึงเวลารวมตัว เค้าจะแบ่งกลุ่มกันตามป้ายค่ะ ป้ายรูปสัตว์เหมือนกันก็ให้อยู่รวมกัน ขอบอกไว้นิดนึงว่า โปรแกรมจะดำเนินด้วยภาษาจีนเป็นหลักนะคะ สำหรับคนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ คือต้องคอยถามๆ น้องๆ เจ้าหน้าที่เป็นระยะ น้องบางคนพูดภาษาอังกฤษโอเคค่ะ บางคนก็ยังสื่อสารได้งงๆ ^^ เค้าจะพาเราลงไปชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นห้องอาบน้ำ (แยกชายหญิง) ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ และมีล็อกเกอร์ที่มีปลั๊ก สำหรับชาร์จแบตมือถือ ฯลฯ ด้วยค่ะ
ล็อกเกอร์สำหรับชาร์จแบตมือถือ มีกุญแจล็อคเรียบร้อย |
ห้องอาบน้ำ มีแชมพู สบู่ ไดร์เป่าผมให้ แต่ต้องเอาผ้าขนหนู แปรงสีฟัน ยาสีฟันไปเองนะคะ |
หลังจากนั้น ก็พาเราเดินชมในอควาเรียมค่ะ เสียดายจริงๆ ถ้าฟังภาษาจีนออกคงจะได้ความรู้เยอะกว่านี้ เพราะน้องๆ ทุกคนดูตั้งใจในการอธิบายมาก เด็กๆ ฟังกันตาแป๋วเลย เอมเองอาศัยความรู้ตั้งแต่เด็ก ที่โตมาแถวๆ อควาเรียมมาใช้ในการเดาว่าเค้าน่าจะกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ และอธิบายเพื่อนๆ อีกต่อหนึ่ง เดินเล่นกันพอให้หิวข้าว (มาก) เค้าก็พาเรามาที่ห้องอาหารค่ะ อาหารกับข้าวเป็นจานเล็กๆ หลากหลาย เลือกทานได้ตามอัธยาศัย
ทานเสร็จแล้ว เราก็มีโปรแกรมต่อไปค่ะ คือ... ไปดูด้านบนแทงค์ ^^ เอมเคยมีโอกาสตามแม่ไปทำงานดูด้านบนแทงค์อควาเรียมอยู่บ้างตอนเด็กๆ แต่ขนาดแทงค์ผิดกันเยอะค่ะ 5555 อันนี้ใหญ่กว่ามาก มีให้อาหารปลา ให้ลองจับ แล้วก็ให้ทายด้วยว่าสิ่งนั้นคืออะไร (เฉลยเป็นไข่ปลาฉลาม)
บ่อนี้เลี้ยงปะการัง อัดไฟกันเต็มที่ |
ชมด้านบนแทงค์เรียบร้อย... ยังค่ะ ยังไม่ได้นอน... เค้ามีกิจกรรมศิลปะให้เราทำกันต่อ เก็บกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย เสร็จเรียบร้อย ก็ไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อทำกิจกรรมต่อไป... ณ จุดนี้ เพื่อนรวมทริปเอมคนนึง นั่งปั้นงานศิลปะกับเอม แต่ออกมาน่ากลัวเล็กน้อย ขอสงวนไม่นำมาเผยแพร่ สำหรับเพื่อนอีกคนนึง นั่งสลบไปเรียบร้อยด้วยความง่วง
ฝีมือเอมเอง ^^ |
ปั้นเสร็จ อาบน้ำเสร็จ ก็ถึงโปรแกรมไฮไลท์อย่างหนึ่งค่ะ คือ การดูแทงค์ยามกลางคืน และแล้ว ก็เหมือนมีนางฟ้ามาโปรด... มีน้องคนนึงมาช่วยเป็นไกด์ภาษาอังกฤษให้เรา น้องเค้าบอกว่าการส่องไฟนั้น เค้าจะใช้ไฟสีแดงซึ่งจะรบกวนสัตว์น้อยกว่าไฟสีขาวตามปกติ ได้เห็นปลาหลายๆ ชนิดตอนหลับ ดอกไม้ทะเลตอนหลับ น่าสนใจมากจริงๆ ค่ะ
ส่องไฟกันเสร็จ ก็ถึงเวลาที่เรารอคอย เวลานอนในอควาเรียมนั่นเอง เค้าจะให้เราเลือกว่าเราจะนอนตรงไหน เอมเลือกอุโมงค์โซนที่ 2 ที่ปกติมันเป็นทางเลื่อนๆ เค้าก็จะพาเราไปเอาถุงที่นอน ที่ประกอบไปด้วย ที่นอน หมอน และผ้าห่ม แล้วก็ปูนอนกัน มันเจ๋งมากจริงๆ นะคะ เป็นอีกหนึ่งคืนที่หลับสบาย และมีความสุขมากๆ
ตอนกลางคืนมืดมาก ไม่ได้ถ่ายไว้ มาถ่ายตอนเช้าที่เริ่มมีไฟแล้ว น้องๆ มาปลุกตอน 7 โมงค่ะ ไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าวเช้ากัน อาหารเช้าที่นี่จะเป็นอาหารมังสวิรัตินะคะ อร่อยดี ทานอาหารเช้าเสร็จ เค้าจะให้เราไปดูโชว์ให้อาหารที่แทงค์ใหญ่ค่ะ
จากนั้นก็เป็นโปรแกรมไปเดินที่ชายทะเลค่ะ เค้าจะพาสำรวจระบบนิเวศ ให้ดูตามแอ่งน้ำ ตามก้อนหิน ซึ่ง... โปรแกรมนี้ ก็เป็นภาษาจีนเช่นเดิมค่ะ T^T และที่สำคัญ ร้อนมากกก ให้ความรู้สึกของหมูแดดเดียวได้ดีจริงๆ
หลังจากเกรียมได้ที่ เค้าก็จะให้ทุกคนเข้าไปฟังในห้องประชุมกันอีกรอบ เอมคุยกับน้องเจ้าหน้าที่ว่ามีเป็นภาษาอังกฤษไหม น้องเค้าบอกว่ามีแต่ภาษาจีน เลยขอตัว น้องเค้าบอกให้ไปรับของที่ระลึกก่อน แล้วจากนั้นก็แยกย้ายกลับบ้านได้ ได้ปากกา กับแฟ้มมาเป็นที่ระลึก แล้วเอมกับเพื่อนๆ ก็เลยเดินเล่นเที่ยวชมอควาเรียม เอมได้เดินชม 2 อาคารใหญ่ๆ จะบอกว่าที่นี้พื้นที่กว้างขวางมากจริงๆ ค่ะ ถามน้องเค้าว่า เป็นของรัฐบาลหรือเอกชน น้องเค้าบอกว่า อาคารใหญ่ 2 อาคาร สร้างให้โดยรัฐบาล และอีกอาคารโดยเอกชน ปัจจุบันบริหารโดยเอกชน ตู้ขนาดใหญ่ๆ ที่นี่มีหลายตู้เลยทีเดียว มีร้านขายของที่มีของกุ๊กกิีกน่ารักเยอะมากๆ ชวนให้เสียสตางค์เป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าภาษาจีนจะเป็นอุปสรรคสำคัญอยู่บ้าง แต่เอมว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ดีมากๆ สิ่งที่ได้มาเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้วถือว่าคุ้มค่า กลับมาเมืองไทยแล้วยังอยากกลับไปอีกรอบอยู่เลย
ขากลับออกมา ต้องนั่งรถออกมาต่อรถบัสที่ฝั่งตรงกันข้ามกับป้ายเดิม ขากลับจากอควาเรียมเข้าเมืองเป็นสาย 9188 หรือ 9188A ใช้ตั๋วรถที่ซื้อมาตั้งแต่แรก พร้อมทั้งโชว์ภาษาจีนที่บอกว่าจะไปลงสถานีรถไฟเกาสง (ให้คนขายตั๋วที่สนามบินช่วยเขียนให้ตั้งแต่เมื่อวาน) นั่งรถหลับมาตลอดทางเตรียมตัวผจญภัยต่อในเกาสง ^^